1. การพ่นยาแบบแม่นยำ: มุ่งเป้าไปที่วัชพืช ไม่ใช่ทั้งพื้นที่
- -
ปัจจัยที่น่าทึ่ง : โดรนสามารถระบุวัชพืชหรือพืชที่เป็นโรคบางชนิดได้โดยใช้การถ่ายภาพแบบมัลติสเปกตรัม ฉีดพ่นสารกำจัดวัชพืชหรือยาฆ่าแมลงเฉพาะจุดที่จำเป็น ช่วยลดการใช้สารเคมีได้ถึง 90% ช่วยปกป้องสุขภาพของดินและลดต้นทุน
2. การทำแผนที่อัจฉริยะและการติดตามพืชผล
- -
ปัจจัยแห่งความตื่นตาตื่นใจ : การตรวจพบศัตรูพืช ปัญหาการชลประทาน หรือการขาดสารอาหารตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยให้เกษตรกรสามารถดำเนินการได้ก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม โดรนขั้นสูงบางรุ่นยังสร้างแบบจำลองพื้นที่เพาะปลูกแบบ 3 มิติเพื่อคาดการณ์แนวโน้มผลผลิตได้อีกด้วย
3. การหว่านเมล็ดและการปลูกอย่างมีประสิทธิภาพ
- -
ปัจจัยที่น่าทึ่ง : วิธีการนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกป่าใหม่และการปลูกพืชซ้ำได้ถึง 10 เท่า โดยมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการฟื้นฟูภูมิประเทศที่ถูกกัดเซาะหรือการปลูกพืชคลุมดินระหว่างฤดูกาล
4. การตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล: ฝาแฝดทางดิจิทัลของฟาร์ม
- -
ปัจจัยที่น่าทึ่ง : อัลกอริทึม AI วิเคราะห์ข้อมูลโดรนเพื่อแนะนำเวลาเก็บเกี่ยว ตารางการชลประทาน และการผสมปุ๋ยที่เหมาะสมที่สุด เปลี่ยนการคาดเดาให้กลายเป็นความแม่นยำ
5. การจัดการภัยพิบัติและการประกันภัย
- -
ปัจจัยที่น่าทึ่ง : ภายในเวลาไม่กี่นาที โดรนสามารถบันทึกภาพหลังเกิดภัยพิบัติได้ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายวันในการรวบรวมด้วยมือ ช่วยให้เกษตรกรสามารถขอรับความช่วยเหลือได้ก่อนที่จะสายเกินไป











